“โปรแกรมจำลองสงคราม” เป็นสิ่งที่กองทัพของหลายประเทศนำมาใช้เพื่อคำนวณประสิทธิภาพในการรบของประเทศนั้น ๆ หากต้องเจอข้าศึก แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีใครนำผลการจำลองออกมาให้สาธารณชนรับทราบ เพราะอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้
อย่างไรก็ดี ล่าสุด “ประเทศจีน” ได้เปิดเผยผลการจำลองสงครามที่ดำเนินการโดยทีมนักวิจัยและวางแผนทางทหาร และพบว่า อาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงจะเป็น “หายนะ” สำหรับกองเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีศักยภาพมากที่สุดของสหรัฐฯ
รายงานผลการจำลองสงครามดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในเดือนพฤษภาคมโดยวารสารเทคโนโลยีการทดสอบและการวัดผล นับเป็นครั้งแรกที่มีการนำผลการจำลองสงครามกับสหรัฐฯ มาเปิดเผยสู่สาธารณะ
ในการจำลองสงครามบนแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่กองทัพจีนใช้ กองกำลังจีนสามารถจมกองเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอสเจราลด์ อาร์ ฟอร์ด (USS Gerald R. Ford) ของสหรัฐฯ ได้ด้วยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงต่อต้านเรือ 24 ลูก
ในสถานการณ์นี้ เรือของสหรัฐฯ ถูกโจมตีหลังจากเข้าใกล้เกาะที่จีนอ้างสิทธิการปกครองในทะเลจีนใต้ แม้ว่าจะมีการเตือนหลายครั้งก็ตาม
ตั้งใจ! รถบรรทุกพุ่งชนแผงกั้นรักษาความปลอดภัยใกล้ทำเนียบขาว
ภาพปลอม! มือดีใช้เอไอทำภาพเหตุระเบิดใกล้ตึกเพนตากอน
ขยายอำนาจแข่งกับจีน! สหรัฐลงนามข้อตกลงด้านกลาโหมกับปาปัวนิวกินี
นักวิจัยที่นำโดย เฉา หงซง นักวิจัยที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีการจำลองเสมือนจริงและเทคโนโลยีการควบคุมขีปนาวุธและจรวดอัจฉริยะ จากมหาวิทยาลัยนอร์ทของจีน กล่าวว่า ในการจำลอง ซึ่งประกอบด้วยเรือผิวน้ำของสหรัฐฯ 6 ลำ ที่ได้รับเลือกจาก “ความแข็งแกร่งที่เหนือชั้นและเทคโนโลยีขั้นสูง”
นักวางแผนทางทหารได้เลือกเรือที่ถือว่าเหนือกว่าที่สุดของกองทัพเรือสหรัฐฯ นั่นคือ CVN-78 Gerald R. Ford พร้อมด้วยเรือลาดตระเวนชั้น CG56 Ticonderoga ชื่อ San Jacinto และเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น DDG-103 Arleigh Burke จำนวน 4 ลำ
นักวิจัยกล่าวว่า เรือบรรทุกเครื่องบินชั้นฟอร์ด ซึ่งประจำการในเดือนกรกฎาคม 2017 มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการออกแบบที่โดดเด่น มีคุณสมบัติต่าง ๆ ได้แก่ ระบบปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ระบบเรดาร์ และระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำสมัย
นักวิจัยตั้งค่าให้จำนวนขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศทั้งหมดของกองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ ถูกกำหนดไว้ที่ 264 ลูก รวมถึง RIM-161E SM-3 ซึ่งเป็นขีปนาวุธขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อสกัดกั้นขีปนาวุธระยะกลางหรือระยะไกล และขีปนาวุธ SM-3 ซึ่งใช้หัวรบเพื่อกำจัดเป้าหมายด้วยการชนด้วยความเร็วมหาศาล และยังติดตั้งอาวุธป้องกันแบบอ่อนจำนวนมากเพื่อต่อสู้กับการโจมตีด้วยขีปนาวุธ
ผลการจำลองปรากฏว่า เรือผิวน้ำเกือบทุกลำถูกทำลายเป็นเสี่ยง ๆ จากการโจมตีของจีน และในที่สุดก็จมลง
การจำลองสงครามชี้ว่า กลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้เชื่อกันว่า ไม่สามารถจมได้ด้วยอาวุธทั่วไป อาจ “ถูกทำลายได้อย่างแน่นอน” ด้วยการโจมตีด้วยอาวุธความเร็วเหนือเสียงจำนวนหนึ่ง
ทีมวิจัยกล่าวว่า ขีปนาวุธต่อต้านเรือที่มีความเร็วเหนือเสียง 2 รุ่นซึ่งมีสมรรถนะแตกต่างกันอย่างมากถูกปล่อยในการจำลอง โดยบางรุ่นยิงจากระยะไกลถึงทะเลทรายโกบี
ในระหว่างการจำลอง ฝ่ายจีนใช้เครือข่ายการเฝ้าระวังทางทะเลเพื่อตรวจจับและระบุตำแหน่งกองเรือสหรัฐฯ ก่อนที่จะยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 8 ลูกที่มีความแม่นยำน้อยพร้อมกันจากพื้นที่ตอนใต้และตอนกลางของจีน ในขณะที่ขีปนาวุธบางส่วนถูกสกัดกั้น การโจมตีทำให้อาวุธ SM-3 ของกองเรือสหรัฐฯ หมดลง
จากนั้น จีนได้ทำการยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่แม่นยำกว่า 8 ลูกจากทางเหนือและตะวันตกของจีน โดย 4 ลูกพุ่งเป้าไปที่เรือบรรทุกเครื่องบิน ในขณะที่ที่เหลือพุ่งเป้าไปที่เรือพิฆาต
หลังจากการจำลองสงคราม 20 ครั้งเพื่อพิจารณาความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการรบ ทีมของเฉาระบุว่า การโจมตี 3 ระลอกสามารถกำจัดเรือผิวน้ำสหรัฐฯ ได้เฉลี่ย 5.6 จาก 6 ลำ
รายงานระบุว่า “กองทัพจีนแสดงความกล้าหาญในกลยุทธ์การยิงที่ซับซ้อน” ซึ่งประกอบด้วยการโจมตี 3 ระลอกที่มีเจตนาซับซ้อน เพื่อลวงและเอาชนะระบบป้องกันที่น่าเกรงขามของกองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารบางคนเตือนว่า ประสิทธิภาพของขีปนาวุธเหล่านี้ในโลกแห่งความเป็นจริงอาจแตกต่างไปจากที่คาดการณ์ไว้จากการจำลอง จากภูมิประเทศ สภาพอากาศ และปัจจัยที่คาดไม่ถึงอื่น ๆ ดังนั้นจึงยังคงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้นำรัฐบาลและสาธารณชนในการเข้าถึงการจำลองเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง
กองทัพจีนมีข้อจำกัดหลายประการในการจำลอง เช่น ไม่สามารถเข้าถึงดาวเทียมสอดแนมที่ประจำการอยู่ในอวกาศ และจำนวนขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่จำกัด
ขีปนาวุธต่อต้านเรือ 2 รุ่นที่จีนใช้ในการจำลอง สามารถแล่นในระดับสูงและทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 11 มัค เฉาบอกว่า ทั้งสองรุ่นสามารถจมเรือบรรทุกเครื่องบินหรือเรือรบขนาดใหญ่ได้ภายในการโจมตี 2 ครั้ง
เอกสารการวิจัยสรุประยะการปฏิบัติการของขีปนาวุธรุ่นหนึ่งไว้ที่ 2,000 กมคำพูดจาก ปั่นสล็อตแตกทุกเกม. โดยมีโอกาส 80% ที่จะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ อีกรุ่นหนึ่งมีระยะเป็น 2 เท่าและอัตราความสำเร็จสูงกว่า 90%
แม้ว่าความถูกต้องของข้อมูลที่ใช้ในเกมสงครามจะไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างแน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารบางคนแนะนำว่า ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของอาวุธนั้นดูน่าเชื่อถือ
วิศวกรอุตสาหกรรมป้องกันการบินและอวกาศในปักกิ่ง ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อเนื่องจากเป็นประเด็นอ่อนไหว กล่าวว่า “ความถูกต้องของข้อมูลที่ใช้ในการจำลองสงครามมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้ประโยชน์ในการประเมินสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น”
เขาเสริมว่า “หากข้อมูลเกี่ยวกับขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงของจีนที่ใช้ในการจำลองสงครามนี้ห่างไกลจากความเป็นจริง อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของการจำลองและนำไปสู่ข้อสรุปที่ไม่ถูกต้อง”
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ทำไมจึงมีการเปิดเผยผลการจำลองสงครามครั้งนี้ ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีท่าทีจากทางฝั่งสหรัฐฯ ว่า มีความคิดเห็นเช่นไรกับผลการจำลองสงครามครั้งนี้
เรียบเรียงจาก SCMP
ภาพจาก AFP