ทั้งนี้การเลือกตั้งขั้นต้นของพรรครีพับลิกันเสร็จสิ้นไปแล้ว 3 สนาม คือ รัฐไอโอวา นิวแฮมเชียร์ และเนวาดา ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ กวาดชัยชนะไปได้หมด และสนามต่อไปคือ รัฐเซาท์ แคโรไลนา ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ( 24 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม แม้นิกกี เฮลีย์ จะมีฐานเสียงที่เหนียวแน่นในรัฐนี้ แต่นักวิเคราะห์มองว่า ทรัมป์ อาจกวาดชัยชนะในรัฐนี้ไปแทน
“ทรัมป์” ลั่น หากได้เป็นปธน.จะยกเลิกข้อจำกัดอาวุธปืนทั้งหมดของ “ไบเดน”
“ปูติน” เผย สหรัฐฯ ภายใต้ “ไบเดน” ดีกว่าสหรัฐฯ ที่ “ทรัมป์” ปกครอง
ศึกการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรครีพับลิกันในรัฐเซาท์ แคโรไลนา ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติในสมัยทรัมป์และอดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์ แคโรไลนา จะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้
ขณะที่ผู้คนที่นั่นกำลังชั่งน้ำหนักกับทางเลือกของพวกเขา โดยมีทั้งคนที่ประกาศว่าจะเลือกทรัมป์ บางคนบอกว่าตัวเลือกที่พวกเขามียังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หลายคนไม่ต้องการทรัมป์และจะยังคงเลือก นิกกี เฮลีย์ ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้หญิงต่างแสดงความกังวลถึงสิทธิและการลำดับความสำคัญของพวกเธอ
แม้ว่า นิกกี เฮลีย์ จะเป็นผู้หญิงที่ลงชิงตำแหน่งตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน แต่พวกเธอไม่คิดว่า นิกกี เฮลีย์ จะหยิบยกประเด็นปัญหาของผู้หญิงเช่น ปัญหาเรื่องสิทธิการทำแท้ง รวมถึงสิทธิในการคุมกำเนิดขึ้นมาแก้ไขได้อย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตามมีบางคนก็อยากเห็นนิกกี เฮลีย์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ และอยากรู้ว่าสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไร หากผู้หญิงขึ้นมาบริหารประเทศ
อย่างไรก็ตามจากผลสำรวจก่อนถึงวันเลือกตั้งขั้นต้นที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ชี้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ยังคงทำคะแนนนำโด่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา แม้ว่า นิกกี เฮลีย์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐเซาท์ แคโรไลนามาถึง 6 ปี จะมีฐานเสียงเหนียวแน่นอยู่ที่นั่นก็ตามคำพูดจาก สล็อต777
ด้านนักเคราะห์ที่ชี้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้งขั้นต้นที่นั่น แต่คำถามสำคัญที่แท้จริงอยู่ที่ว่า จะชนะด้วยคะแนนเท่าไหร่ เพราะจากการสำรวจคะแนนนิยมครั้งล่าสุด คะแนนของทรัมป์ยังนำ นิกกี เฮลีย์อยู่เกือบ 30 คะแนน
นักวิเคราะห์มองว่า ทรัมป์อาจคว้าชัยชนะในรัฐเซาท์แคโรไลนาได้ เพราะที่นั่นมีเขตเลือกตั้งที่มีกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่หลากหลาย ไม่เหมือนกับรัฐไอโอวา หรือรัฐนิวแฮมเชียร์ และด้วยเหตุนี้ผู้สมัครลงเลือกตั้งจะต้องส่งสารที่ดึงดูดผู้คนในวงกว้างให้มากขึ้น
ที่ผ่านมา พรรครีพับลิกันได้ใช้ทรัมป์เป็นตัวชูโรง และเป็นที่มาของคำติดปากว่า Make America Great Again ที่ผู้คนพูดถึงกัน ขณะเดียวกันตัวทรัมป์เองก็มีกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยให้การสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งมาโดยตลอด ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า นี่คือเหตุผลที่ทรัมป์จะคว้าชัยชนะครั้งใหญ่ในวันพรุ่งนี้
แม้ผลสำรวจล่าสุดจะทำให้ นิกกี เฮลีย์ ถึงกับนั่งไม่ติด เพราะรัฐเซาท์ แคโรไลนา เป็นรัฐบ้านเกิดของเธอ และความพ่ายแพ้ในรัฐบ้านเกิดของตัวเองอาจส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อโอกาสในสนามการเมือง อย่างไรก็ตามเธอยังคงให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์การเลือกตั้งขั้นต้นในวันเสาร์นี้
เมื่อคืนที่ผ่านมา (22 ก.พ.) นิกกี เฮลีย์ ได้กล่าวปราศรัยต่อกลุ่มผู้สนับสนุนที่เมอร์เทิล บีช แต่ระหว่างที่เธอพูดอยู่นั้น ถูกผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งออกมาขัดจังหวะในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตามเธอได้บอกกับผู้สนับสนุนของเธอไม่ให้อารมณ์เสียต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกล่าวปราศรัยโจมตีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงโจ ไบเดนอย่างดุเดือด ในเรื่องของอายุ
โดยทั้งทรัมป์ และไบเดนต่างมีอายุเกิน 75 ปี และเธอได้เรียกร้องให้มีการตรวจสภาพจิตของผู้ที่มีอายุมาก เพราะการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ มีความสำคัญในแง่ของการตัดสินใจดำเนินนโยบายด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ
ที่ผ่านมาพรรครีพับริกันได้จัดการเลือกตั้งขั้นต้นไปแล้ว 3 รัฐ และผลปรากฏว่าโดนัลด์ ทรัมป์ กวาดชัยชนะไปได้หมด
อย่างการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐไอโอวา ทรัมป์ก็เป็นผู้ชนะด้วยคะแนนแลนด์สไลด์ เหนือรอน เดอ ซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา และ นิกกี เฮลีย์ ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญ
โดยการเลือกตั้งขั้นต้นในครั้งนั้นทรัมป์เป็นฝ่ายชนะขาดลอยไปด้วยสัดส่วนคะแนนอยู่ที่ร้อยละ 51 กวาดจำนวนตัวแทนผู้ลงคะแนนไป 20 ที่จากโควตาของรัฐทั้งหมด 40 ที่
ส่วนศึกเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐนิวแฮมเชียร์ รอน เดอซานติส ได้ประกาศถอนตัวจากการแข่งขัน ทำให้เหลือแค่ ทรัมป์ และ นิกกี เฮลีย์ ที่ลงแข่งขันกัน โดยทั้งสองฝ่ายหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายอย่างเข้มข้น และผลการเลือกตั้งขั้นต้นออกมาว่า ทรัมป์คือผู้ชนะ แต่สัดส่วนคะแนนที่ได้รับไม่ได้ทิ้งห่างจากนิกกี เฮลีย์ ที่ได้รับคะแนนเสียงมากเป็นลำดับที่สอง
เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในรัฐไอโอวา โดยสัดส่วนคะแนนที่ทรัมป์ได้รับอยู่ที่ร้อยละ 54.5 ขณะที่สัดส่วนคะแนนของเฮลีย์ อยู่ที่ร้อยละ 43.2 ห่างกันอยู่ราว 12 จุด
ส่วนการเลือกตั้งขั้นต้นในรัฐเนวาดา ทรัมป์ก็คว้าชนะการเลือกตั้งขั้นต้นแบบคอคัส (Caucus) ในรัฐเนวาดา และหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐฯ โดยทรัมป์ได้รับคะแนนเสียง 182 เสียง หรือร้อยละ 74 จากทั้งหมด 246 เสียง เอาชนะนิกกี เฮลีย์ ที่ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงร้อยละ 26 ด้วยคะแนนเสียง 64 เสียง
ชัยชนะของทรัมป์ใน 3 สนามการเลือกตั้งขั้นต้น และคาดว่าจะกวาดชัยชนะได้อีกหนึ่งสนามจากรัฐเซาท์ แคโรไรนา เป็นสัญญาณทางการเมืองที่แสดงให้เห็นว่า มีโอกาสสูงมากที่ทรัมป์จะได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพบลิกัน ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งใหญ่เดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ แต่ดูเหมือนว่า การไปถึงฝั่งฝันของทรัมป์ในการกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวนั้นอาจไม่ง่าย เพราะมีอุปสรรคทางกฎหมาย และมรสุมคดีความอีกมากมายที่รออยู่
แม้ทรัมป์จะอยู่ในฐานะเต็ง 1 ที่จะได้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในนามพรรครีพับลิกัน แต่เขากำลังเผชิญกับคดีอาญาคดีใหญ่ถึง 4 คดี รวมถึงคดีการยุยงให้ผู้สนับสนุนก่อจลาจลที่อาคารรัฐสภาเพื่อล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ซึ่งนี่ถือเป็นการก่อกบฎต่อประเทศรูปแบบหนึ่ง ขณะที่คดีความเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ ทรัมป์ ไม่สามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้อีก
แม้ ทรัมป์ ยังมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิพลเมืองได้เริ่มกระบวนการเพื่อทำให้ทรัมป์ถูกตัดสิทธิจากการลงเลือกตั้ง โดยอ้างมาตรา 3 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขครั้งที่ 14 ซึ่งห้ามบุคคลใดๆก็ตามดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐ หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการกบฎ
โดยที่รัฐโคโลราโด ศาลฎีกาได้พิพากษาถอดชื่อ ทรัมป์ ออกจากการเลือกตั้งขั้นต้น ส่วนที่รัฐเมน คณะกรรมการการเลือกตั้งได้สั่งลบชื่อทรัมป์ด้วยเช่นกัน แต่ขณะนี้คำสั่งดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการอุทธรณ์
ขณะที่คดีอื่นๆ กำลังอยู่ในขั้นตอนอุทธรณ์ และหลายคดีกำลงเข้าสู่กระบวนการไต่ส่วนของศาลในปีนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หากการพิจาณาคดีต่างๆ เลื่อนออกไป และทรัมป์ชนะเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเขา เพราะเขาอาจใช้อำนาจประธานาธิบดีอภัยโทษตัวเองเพื่อยุติการดำเนินคดีต่างๆ
ปฏิทินวันพระ 2567 เช็กวันสำคัญทางศาสนา-วันมาฆบูชา ตรงกับวันที่เท่าไร
“เนย ปภาดา” ประกาศเลิกสามี ยุติชีวิตคู่หลังแต่ง 2 ปี
เปิดภาพเรือหลวงสุโขทัย ไทย-สหรัฐฯ ปฏิบัติค้นหา-ปลดวัตถุอันตราย